ฟุตบอลอังกฤษขึ้นชื่อเรื่องการสกัดบอลที่หนักหน่วง เป็นการเข้าปะทะแบบเน้นๆทั้งคนทั้งบอลอยู่แล้ว ทว่าบนหน้าประวัติศาสตร์ตลอด 30 ปีหลัง ต่อให้เตะกันหนักขนาดไหน อุณหภูมิเกมเดือดสักเท่าไร ก็มีเพียงเกมเดียวเท่านั้นที่ “ไม่สามารถเล่นต่อจนจบ 90 นาทีได้”
แมตช์ดังกล่าวชื่อว่า The Battle of Bramall Lane และนี่คือเรื่องราวของแมตช์เดย์อันร้อนแรงและดุเดือดที่สุดเท่าที่วงการฟุตบอลอังกฤษเคยมี
ติดตามได้ที่ Main Stand
ได้ดิ.. แบบนี้เดี๋ยวเจอกัน
บรามอลล์ เลน คือสนามเหย้าของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมขาประจำระดับลีกรองที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดี และสนามแห่งนี้คือสังเวียนที่เริ่มต้นตำนานแมตช์การแข่งขันที่ดุเดือดที่สุดในฟุตบอลอังกฤษ
แน่นอนว่า เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มีส่วนเกี่ยวข้องแน่ แต่คู่กรณีของพวกเขาในแมตช์ The Battle of Bramall Lane กลับไม่ใช่ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ คู่ปรับร่วมเมืองของพวกเขา แต่เป็นทีมที่ไม่เคยมีความเเค้นกันมาแต่ในอดีตหรือชาติปางก่อน นั่นคือ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน สโมสรจากแถบมิดแลนด์ ที่ไม่ได้อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกับพวกเขาแต่อย่างใด
.. และเรื่องนี้มีที่มาจากนักเตะ 2 คน ที่เป็นเหมือนน้ำผึ้งหยดเดียวของเกมสำคัญเกมนี้
ย้อนกลับไปในปี 2000 ณ การแข่งขันรายการ เดอะ เเชมเปี้ยนชิพ ระหว่าง เวสต์บรอมวิช ต้องลงเล่นเจอกับทีม นอตติงแฮม ฟอเรสต์ ในเกมนั้นเกิดเหตุการณ์ที่ถูกกล่าวถึงยิ่งกว่าผลการแข่งขัน นั่นคือการเข้าปะทะกันอย่างหนักหน่วงกลางอากาศของ จอร์จ ซานโตส นักเตะของ เวสต์บรอมฯ และ แอนดี้ จอห์นสัน จากฝั่งฟอเรสต์
จังหวะปะทะดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อบอลกระดอนลอยอยู่กลางอากาศ ซานโตส กำลังจะเข้าถึงลูกนั้นก่อน แต่ จอห์นสัน ที่เข้ามาถึงช้ากว่าเพียงเสี้ยววินาทีก็มาด้วยความแรงเต็มพิกัด ทำให้เกิดการชนกันอย่างจัง และ ซานโตส ก็ไมได้เกร็งรอไว้ในจังหวะนั้น
แม้ภาพจังหวะปะทะดังกล่าวไม่สามารถหาดูได้เเล้ว แต่คนที่จดจำเรื่องนี้อย่างขึ้นใจคือ ซานโตส นักเตะสายเลือดฝรั่งเศส-เคปเวิร์ด คือคนที่ได้รับบาดเจ็บหนักจากการเข้าปะทะครั้งนั้น และเขาไม่มีวันลืม
“ผมเจ็บสาหัสเลย การผ่าตัดเกิดขึ้นทันทีเมื่อผมถูกหามออกจากสนาม จริงๆมันควรจะใช้เวลาผ่าตัดไม่เกิน 2 ชั่วโมง แต่ให้ตายเถอะ วันนั้นผมต้องนอนอยู่ในห้องผ่าตัดนานถึง 6 ชั่วโมง ศัลยแพทย์บอกผมว่าผมอาจจะสูญเสียการมองเห็นไปก็ได้ แต่ที่แน่ๆ อาการของผมคือจมูกหัก โหนกแก้มแตก เบ้าตาทั้งสองข้างแตก หนักขนาดนี้จึงเป็นเหตุผลที่ผมจะจำมันไปตลอดชีวิต” จอร์จ ซานโตส กล่าว
Cr.soccersuck